ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ครูคณิตนวกะดุจพระบวชใหม่

สารบัญบทความ
ดูชื่อเรื่องแล้วหลายท่านอาจจะฉงนสงสัยกันไปใหญ่กระมัง อะไรกันวะ "ครูนวกะ" พิมพ์ สะกดการันต์อะไรผิดไปหรือเปล่านี่ จริง ๆ แล้วมันก็เป็นเช่นชื่อเรื่องนั่นแหละ พระนวกะ ก็คือพระบวชใหม่ ครูนวกะที่ครูพีใช้ในที่นี้ก็คือครูมือใหม่ ครูฝึกสอน ครูฝึกหัด อะไรที่มันใหม่ซิง ๆ นี่มันล้วนตื่นเต้นทั้งนั้น แม้นจะมีปริยัติ หรือหลักทฤษฎีอยู่เต็มหัวก็ตาม เป็นพระก็เคอะเขิน ครองผ้าก็ไม่เรียบร้อย ออกบิณฑบาตก็ งก ๆ เงิ่น ๆ ท่องบทสวดอะไรยังไม่ได้ เวลาเข้าร่วมสังฆกรรมต่าง ๆ ก็ใช้ลูกก้มลูกเดียว ... ครูมือใหม่ก็เฉกเช่นเดียวกัน ยิ่งมีอาจารย์พี่เลี้ยง อาจารย์นิเทศกำลังสังเกตการสอนอยู่ด้วย น้ำลายมันเหนียว แขนขามันสั่นพันกันยุ่งไปหมด ... ขนาดติดสินบนเด็ก ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้วนาว่าให้เรียบร้อย ตั้งใจเรียน....ให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้วจะมีรางวัล... นักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์ มีไฟต์บังคับคือต้องออกฝึกสอนจึงจะสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ ...จากประสบการณ์การเป็นนักศึกษาฝึกสอน อาจารย์พี่เลี้ยง และอาจารย์นิเทศนักศึกษาที่ผ่านมา มีข้อบกพร่องบางประการในการสอนที่นักศึกษาควรแก้ไขดังต่อไปนี้

1. นักศึกษาไม่ทราบความเชื่อมโยงต่อเนื่องของเนื้อหาที่สอน นักศึกษาหลายคนเตรียมการสอนเฉพาะเรื่องที่จะสอนเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นการเพียงพอเพราะสิ่งที่จะสอนใหม่ย่อมต้องสัมพันธ์กับสิ่งที่เรียนมาแล้ว และบางครั้งผู้เรียนไม่เข้าใจคำอธิบายของผู้สอนซึ่งอาจจะด้วยสาเหตุที่ไม่เข้าใจในแนวคิดเดิม ๆ ที่เรียนไปแล้ว เช่น ครูมือใหม่หลายคนเริ่มสอนด้วยทฤษฎีบทที่สิบขึ้นไป โดยที่ตนเองก็มิได้ทบทวนศึกษาเนื้อหาสาระทฤษฎีบทต้น ๆ ให้ถ่องแท้ ไม่ได้แสดงความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงต่อเนื่องระหว่างทฤษฎีเหล่านั้น เมื่อผู้เรียนถามปัญหาซึ่งต้องใช้ทฤษฎีตอนต้น ๆ มาใช้ก็ตอบหรือให้ความกระจ่างแก่ผู้เรียนไม่ได้ ทำให้ผู้เรียนขาดความเชื่อมั่นศรัทธาครูผู้สอน

2. ผู้สอนไม่สามารถตอบปัญหาที่ผู้เรียนถามได้ตรงจุด ถูกต้องและชัดแจ้ง ตัวอย่างเช่น ปัญหาเกี่ยวกับทฤษฎีที่ว่าด้ายการเท่ากันทุกประการของสามเหลี่ยมสองรูปว่า ถ้าสามเหลี่ยมสองรูปมีด้านที่เท่ากันสองด้าน ด้านต่อด้าน และมุมระหว่างด้านเท่าเท่ากัน แล้วสามเหลี่ยมสองรูปนั้นจะเท่ากันทุกประการ (ด.ม.ด.) สิ่งที่สำคัญและควรระวังในที่นี้คือ มุมต้องอยู่ในระหว่างด้านเท่า ผู้เรียนหลายคนจะใช้ทฤษฎีบทนี้โดยไม่ระวัง ไม่ตระหนักถึงว่ามุมนั้นต้องเป็นมุมที่อยู่ระหว่างด้านที่เท่ากันหรือไม่ เมื่อครูมือใหม่ให้คำแนะนำติติงว่าผิด ผู้เรียนก็จะย้อนถามว่าทำไมถึงผิด และครูมักจะยกทฤษฎีขึ้นมาอธิบายชี้แจงซึ่งก็ไม่อาจสร้างความกระจ่างชัดในเหตุผลให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนได้ ให้ทำโจทย์ปัญหาในลักษณะคล้ายคลึงกันก็ยังคงผิดตามเดิม เพียงแค่ครูมือใหม่สร้างรูปง่าย ....

สามเหลี่ยม ABC กับสามเหลี่ยม ABC1 มีด้านเท่ากันสองด้าน คือ AB เท่ากับด้าน AB (ด้านร่วม) ด้าน AC เท่ากับด้าน AC1 และมุมหนึ่งมุมเท่ากันคือ มุม B (มุมร่วม) ซึ่งผู้เรียนเห็นได้ชัดเจนว่าสามเหลี่ยมสองรูปนี้ไม่ใช่สามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการ จะทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อความ "มุมในระหว่างด้านที่เท่ากัน" ได้อย่างแจ่มชัด
3. ครูมือใหม่ไม่ได้ใช้ความรู้วิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนในระดับอุดมศึกษามาช่วยอธิบายเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่าย และถูกต้องชัดเจน
เช่น เมื่อผู้เรียนเข้าใจว่า (a+1)/(a+1) = 0 ครูมือใหม่ไปอธิบายว่า "มันตัดกันไปได้หมด" และยกตัวอย่างประกอบให้เห็นเช่น 4/4
เป็น 1 มิใช่ 0 คำกล่าวที่ว่า "ตัดกันไปได้หมด" ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้เรียนเข้าใจว่า (a+1)/(a+1) ควรเท่ากับ 0 ในเรื่องนี้นั้น เมื่อเราพิจารณาปัญหาแล้วจะเห็นว่าผู้เรียนไม่เข้าใจแนวคิดของการหารได้ดีพอ เราควรต้องอธิบายว่า
m/n = # หมายถึง m = n x # ดังนั้น
(a+1)/(a+1) = # หมายถึง a+1 = (a+1) x # นั่นคือ # ต้องเป็น 1

4. ครูมือใหม่ขาดความรู้รอบตัวที่เพียงพอ
ดังในสถานการณ์การสอนเกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ย มีครูบางคนกล่าวว่า "ถ้าใครให้นักเรียนยืมเงินแล้วคิดดอกเบี้ยทบต้น ถือว่าเป็นการเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ควรคิดดอกเบี้ยเชิงเดียว" แสดงว่าครูเข้าใจผิดในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะการคิดดอกเบี้ยทบต้นนั้นเป็นการยุติธรรม และเป็นที่ยอมรับกันในวงการธุรกิจสากล ครูจะสอนเนื้อหาใด ควรจะมีความรู้ในวิชานั้น ๆ นอกเหนือจากในหนังสือเรียน

5. ครูมือใหม่ชอบยกตัวอย่างในหนังสือเรียน หรือพิสูจน์ตามหนังสือเรียน
ตัวอย่างใดที่มีอยู่ในหนังสือเรียนแล้วก็ควรให้ผู้เรียนได้ศึกษาด้วยตนเอง ตัวอย่างที่ผู้สอนจะยกมาแสดงควรเป็นตัวอย่างที่ครูคิดขึ้นมา หรือเอามาจากหนังสืออื่น เพราะจะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้หลากหลาย กว้างขวาง การยกตัวอย่างในหนังสือเรียนนอกจากจะเป็นการแสดงว่าครูไม่ได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้นอกเหนือไปจากหนังสือเรียนแล้ว ยังปลูกฝังนิสัยไม่ดีแก่เด็ก เพราะเมื่อครูอธิบายให้หมดแล้วเด็กก็ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติมอะไรอีก นิสัยรักการอ่านซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการศึกษา ก็จะถูกละเลยมิได้ให้การส่งเสริมเท่าที่ควร

แต่อย่างไรก็ตามแม้นจะมีข้อบกพร่องเหล่านี้ ครูฝึกสอนส่วนมากก็มักจะสอนได้ดี ทั้งนี้เพราะมีความปราถนาดีต่อเด็ก มีจริยธรรมและจิตวิญญาณของครูเต็มเปี่ยม และพยายามปรับปรุงตนเองตลอดเวลา การให้ปัญญาย่อมได้ปัญญา ความรัก ปัญญา และเมตตาย่อมส่งผลให้ครูคณิตศาสตร์มือใหม่ได้ประสบผลสำเร็จที่ดีงามในปัจจับันและกาลอนาคตต่อไปอย่างแน่นอน


ด้วยความปราถนาดี

ครู PEE/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น